วันนี้วันจันทร์ที่ 30 กันยยายน 2556
มีการเรียนการสอนโดบอาจารย์จินตนา สุขสำราญ อาจารย์ได้ให้นักศึกษาที่ค้างงานการสาธิตต่างๆออกมานำเสนอเทคนิคการสอน อาทิเช่น การทดลอง และของเล่นเข้ามุม(งานกลุ่มกลุ่มละ 3 คน) รวมถึงของเล่นวิทยาศาสตร์ที่เด็กสามารถประดิษฐ์ขึ้นเองได้
- ไข่ตกไม่แตก เป็นการทดลอง
แฟ้มสะสมงานในรายวิชการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ภาคเรียนที่1/2556
วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556
วันนี้วันที่ 23 กันยายน 2556
วันนี้อาจารย์ตฤณ ได้ให้นักศึกษากลุ่มที่เพื่อนๆเลือกว่าการทำ Cooking กลุ่มไหนน่าสนใจ ให้เป็นตัวในการสาธิตการสอนการทำ Cooking ซึ่งสรุปออกมาได้ว่าจะทำข้าวผัด
อันดับแรกเพื่อที่ทำการสาธิตเป็นอาจารย์ ได้ออกมาพูดถึงการวางแผนงานทั้งหมด 3 แผ่น และพูดตามแผนหารสอน
วันนี้อาจารย์ตฤณ ได้ให้นักศึกษากลุ่มที่เพื่อนๆเลือกว่าการทำ Cooking กลุ่มไหนน่าสนใจ ให้เป็นตัวในการสาธิตการสอนการทำ Cooking ซึ่งสรุปออกมาได้ว่าจะทำข้าวผัด
อันดับแรกเพื่อที่ทำการสาธิตเป็นอาจารย์ ได้ออกมาพูดถึงการวางแผนงานทั้งหมด 3 แผ่น และพูดตามแผนหารสอน
การสาธิตการสอนการทำข้าวผัด
คุณครู : วันนี้เด็กๆๆเห็นอะไรบ้างค่ะ?
เด็ก : เด็กตอบจากสิ่งที่เด็กเห็น
วันนี้เด็กๆๆคิดว่า เด็กๆจะประกอบอาหารอะไรกัน
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556
- แกงจืดเต้าหู้ หมูสับ
จะมีแผ่นแรกจะเป็นเสมือนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับแกงจืดเต้าหู้หมูสับ ซึ่งเพื่อนจะแบ่งเป็นอุปกรณ์ เครื่องปรุง ประโยชน์ หรือสารอาหารที่ได้รับ ส่วนแผ่นที่สอง เป็นวิธีหรือขั้นตอนการประกอบอาหาร สองแผ่นสุดท้ายจะเป็น การเขียนแผน จากการทำแกงจืดเต้าสหู้หมูสับ และสามารถบอกได้ว่าขั้นตอนใดที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
จะมีแผ่นแรกจะเป็นเสมือนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับแกงจืดเต้าหู้หมูสับ ซึ่งเพื่อนจะแบ่งเป็นอุปกรณ์ เครื่องปรุง ประโยชน์ หรือสารอาหารที่ได้รับ ส่วนแผ่นที่สอง เป็นวิธีหรือขั้นตอนการประกอบอาหาร สองแผ่นสุดท้ายจะเป็น การเขียนแผน จากการทำแกงจืดเต้าสหู้หมูสับ และสามารถบอกได้ว่าขั้นตอนใดที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
- แซนวิช
จะมีแผ่นแรกจะเป็นเสมือนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับแซนวิช ซึ่งเพื่อนจะแบ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร ส่วนแผ่นที่สอง เป็นวิธีหรือขั้นตอนการประกอบอาหาร สองแผ่นสุดท้ายจะเป็น การเขียนแผน จากการทำแซนวิช และสามารถบอกได้ว่าขั้นตอนใดที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
- วุ้นจะมีแผ่นแรกจะเป็นเสมือนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับแซนวิช ซึ่งเพื่อนจะแบ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร ส่วนแผ่นที่สอง เป็นวิธีหรือขั้นตอนการประกอบอาหาร สองแผ่นสุดท้ายจะเป็น การเขียนแผน จากการทำแซนวิช และสามารถบอกได้ว่าขั้นตอนใดที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
จะมีแผ่นแรกจะเป็นเสมือนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับวุ้น ซึ่งเพื่อนจะแบ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร ส่วนแผ่นที่สอง เป็นวิธีหรือขั้นตอนการประกอบอาหาร สองแผ่นสุดท้ายจะเป็น การเขียนแผน จากการทำวุ้น และสามารถบอกได้ว่าขั้นตอนใดที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
- ข้าวผัด
จะมีแผ่นแรกจะเป็นเสมือนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับข้าวผัด ซึ่งเพื่อนจะแบ่งเป็นอุปกรณ์ เครื่องปรุง ประโยชน์ หรือสารอาหารที่ได้รับ ส่วนแผ่นที่สอง เป็นวิธีหรือขั้นตอนการประกอบอาหาร สองแผ่นสุดท้ายจะเป็น การเขียนแผน จากการทำข้าวผัด และสามารถบอกได้ว่าขั้นตอนใดที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
- ไข่ตุ๋นแฟนซี
ซึ่งกลุ่มของข้าพเจ้าได้เขียนแผนไข่ตุ๋นแฟนซี แผ่นแรกเขียนเกี่ยวกับข้อมูล หรือความรู้เบื้องต้นต่างๆเกี่ยวกับไข่ตุ๋น ซึ่งกลุ่มของข้าพเจ้าแบ่ง หัวข้อเป็น 5 หัวข้อ ดังนี้
1. รสชาติ
- หวาน
- เค็ม
2. ชนิด
- ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง - ไข่ตุ่นหมูสับ - ไข่ตุ๋นต้มยำ
- ไข่ตุ๋นโบราณ - ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น
3. อุปกรณ์
- ไมโครเวฟ / หม้อนึ่ง - ทัพพี - ช้อน / ส้อม
- มีด - ถ้วย
4. วัตถุดิบ
- ไข่ - น้ำเปล่า - น้ำมันหอย
- ซีอิ๋วขาว - ซอสปรุงรส - ผักชนิดต่างๆ
- เนื้อสัตว์
5. ประโยชน์
- โปรตีน - วิตามีน - ธาตุเหล็ก
- เกลือแร่ - ไขมันจากเนื้อสัตว์ - แคลเซียม
แผ่นที่ 2 เป็นการเขียนเกี่ยวกับ ขั้นตอนการทำ หรือวิธีการทำ
แผ่นที่ 3 เป็นการเขียนแผนและให้เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ด้วย คือ
ประสบการณ์สำคัญ : การตั้งสมมุติฐาน ถ้าไข่โดนความร้อนแล้วจะเป็นอย่างำร?
การสังเกตุ การเปรียบเทียบ สังเกตุไข่ว่าก่อนทำมีลักษณะอย่างไร? และหลังจากทำเสร็จแล้วไข่มีการเปลี่ยนแปลงแย่างไร?
วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556
วันนี้ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากช่วงบ่ายมีการจัดงานเกษียณอาจารย์กรรณิการ์ สุขสม และข้าพเจ้าก็ได้ร่วมทำการแสดงโชว์เป็นการรำ ฟ้อนที และเพื่อนอีหนึ่งกลุ่ม เป็นการแสดง
สิ่งที่หาเพิ่มเติม
ไข่เอย...จงนิ่ม
- แก้ว 1 ใบ
- น้ำส้มสายชู
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
ขั้นตอนการทดลอง
1. นำไข่ใส่ลงไปในแก้ว
2. เทน้ำส้มสายชูลงไปในแก้วให้ท่วมไข่
3. ทิ้งไว้ 1 คืน อดใจรอพอตอนเช้าเทน้ำส้มสายชูออก แล้วก็ลองจับไข่ที่แช่ไว้ดู
เพราะอะไรกันนะ
น้ำส้มสายชูมีกรดทำให้กัด หรือละลายแคลเซียมได้ เปลือกไข่มีแคลเซียมเป็นองค์ประกอบ เมื่อโดนน้ำส้มสายชูเปลือกไข่จึงนิ่ม เหมือนการที่รับประทานน้ำอัดลมมีกรด จึงสามารถกัดกระเพาะเราได้
วันนี้ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากช่วงบ่ายมีการจัดงานเกษียณอาจารย์กรรณิการ์ สุขสม และข้าพเจ้าก็ได้ร่วมทำการแสดงโชว์เป็นการรำ ฟ้อนที และเพื่อนอีหนึ่งกลุ่ม เป็นการแสดง
สิ่งที่หาเพิ่มเติม
ไข่เอย...จงนิ่ม
มาเสกไข่ให้นิ่มกันเถอะ
สิ่งที่ต้องใช้- แก้ว 1 ใบ
- น้ำส้มสายชู
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
ขั้นตอนการทดลอง
1. นำไข่ใส่ลงไปในแก้ว
2. เทน้ำส้มสายชูลงไปในแก้วให้ท่วมไข่
3. ทิ้งไว้ 1 คืน อดใจรอพอตอนเช้าเทน้ำส้มสายชูออก แล้วก็ลองจับไข่ที่แช่ไว้ดู
เพราะอะไรกันนะ
น้ำส้มสายชูมีกรดทำให้กัด หรือละลายแคลเซียมได้ เปลือกไข่มีแคลเซียมเป็นองค์ประกอบ เมื่อโดนน้ำส้มสายชูเปลือกไข่จึงนิ่ม เหมือนการที่รับประทานน้ำอัดลมมีกรด จึงสามารถกัดกระเพาะเราได้
วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556
วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษานำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสำหรับเด็กปฐมวัยมานำเสนอเป็นการสาธิตการสอนในรูปแบบของตนเอง
ซึ่งข้าพเจ้าได้เตรียมการทดลองที่มชื่อว่า เป่าลูกโป่งในขวด
วัสดุ/อุปกรณ์
- คัตเตอร์
- ขวดน้ำขนาด 1 ลิตร จำนวน 2 ขวด
- ลูกโป่งแบบบาง จำนวนแล้วแต่ความสะดวก
ขั้นตอนการสาธิตการเรียนการสอน
1. สมมุติฐาน
- คุณครูถามว่า"เด็กๆเห็นอะไรบนโต๊ะคุณครูบ้าง"
เด็กตอบว่า เห็นขวดน้ำ เห็นลูกโป่ง และคัตเตอร์ (โดยขั้นตอนนี้การพูดควรเรียงจากซ้ายมือของเด็กๆก่อน)
- คุณครูถามว่า"เด็กๆคิดว่าสิ่งที่เด็กๆเห็นจะสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง"
เด็กตอบว่า เอาขวดน้ำไปใส่น้ำ แล้วก็เป่าลูกโป่ง
2. ทดลอง/สาธิต
- คุณครูจะนำลูกโป่งใส่ลงไปในขวดน้ำที่เตรียมมา
- โดยที่ให้ปลายลูกโป่งครอบบริเวณปากขวดน้ำ
วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษานำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสำหรับเด็กปฐมวัยมานำเสนอเป็นการสาธิตการสอนในรูปแบบของตนเอง
ซึ่งข้าพเจ้าได้เตรียมการทดลองที่มชื่อว่า เป่าลูกโป่งในขวด
วัสดุ/อุปกรณ์
- คัตเตอร์
- ขวดน้ำขนาด 1 ลิตร จำนวน 2 ขวด
- ลูกโป่งแบบบาง จำนวนแล้วแต่ความสะดวก
ขั้นตอนการสาธิตการเรียนการสอน
1. สมมุติฐาน
- คุณครูถามว่า"เด็กๆเห็นอะไรบนโต๊ะคุณครูบ้าง"
เด็กตอบว่า เห็นขวดน้ำ เห็นลูกโป่ง และคัตเตอร์ (โดยขั้นตอนนี้การพูดควรเรียงจากซ้ายมือของเด็กๆก่อน)
- คุณครูถามว่า"เด็กๆคิดว่าสิ่งที่เด็กๆเห็นจะสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง"
เด็กตอบว่า เอาขวดน้ำไปใส่น้ำ แล้วก็เป่าลูกโป่ง
2. ทดลอง/สาธิต
- คุณครูจะนำลูกโป่งใส่ลงไปในขวดน้ำที่เตรียมมา
- โดยที่ให้ปลายลูกโป่งครอบบริเวณปากขวดน้ำ
วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากเป็นวันสอบกลางภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 แต่ข้าเจ้าได้เปิดดูคลิปเพื่อศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้น จึงเลือกคลิปนี้เป็นการทดลอง ลูกโป่งโยคี
การทดลองครั้งแรก ใช้เพียงตะปูดอกเดียวเมื่อนำของที่มีน้ำหนักไปวางจึงทำให้ลูกโป่งแตก แต่เมื่อทดลองครั้งที่สอง เราได้เปลี่ยนให้มีตะปูหลายอันนำลูกโป่งวางบนตะปูแล้วจึงนำหนักสือหลายเล่มวางบนลูกโป่งแต่ลูกโป่งไม่แตก เพราะ เมื่อมีตะปูหลายๆๆดอกเป็นการเพิ่มพีื้นที่กระจายเพิ่มขึ้น ความดันที่ตะปูแต่ละดอกจึงน้อยลง ทำให้เราสามารถกดตะปูที่ลูกโป่งได้มากกว่าเดิม
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากอาจารย์อนุญาติให้พักเพื่ออ่านหนังสือเตรียมตัวสอบกลางภาคเป็นวันสอบกลางภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556
สิ่งที่หาเพิ่มเติม
วิธีทดลอง
เพราะอะไรกันนะ
ทะไมเวลาที่มะนาวเขียนใส่ลงในกระดาษแล้วนำไปลนไฟตนเกอดเป็นรอยไหม้สีน้ำตาล เนื่องจากน้ำมะนาวที่ถูกความร้อนกับอากาศ จะทำให้น้ำมะนาวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
สิ่งที่หาเพิ่มเติม
สิ่งที่ต้องใช้
- ปากกาเก่าๆที่หมึกหมดแล้ว()
- น้ำส้มสายชู หรือ น้ำมะนาว
- กระดาษ
- เทียนไข
วิธีทดลอง
นำปากกามาจุ่มลงในน้ำส้มสายชู แล้วเขียนตัวหนังสือลงในกระดาษ ควรเพียนตัวอักษรให้ใหญ่หน่อยเพื่อที่จะได้มองเห็นได้ชัดๆ แล้วทั้งไว้จนกระดาษแห้ง
วิธีการอ่านข้อความในจดหมายก็คือ นำไปสิ่งกับแสงเทียนตัวหนังสือปริศนาจะปรากฏขึ้นทันที หากกลัวไฟไหม้กระดาษก็สามารถใช้เตารีดมารีดแทนได้ หรือเป่าด้วยเครื่องเป่าก็ได้
เพราะอะไรกันนะ
ทะไมเวลาที่มะนาวเขียนใส่ลงในกระดาษแล้วนำไปลนไฟตนเกอดเป็นรอยไหม้สีน้ำตาล เนื่องจากน้ำมะนาวที่ถูกความร้อนกับอากาศ จะทำให้น้ำมะนาวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันนี้อาจารย์ได้มีการเรียนชดเชยเนื่องจากหยุดวันอาสาฬหบูชา ให้เพื่อนที่กลับไปแก้ไขงาน ของเล่นที่เด็กสามารถประดิษฐ์เองได้ ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนโดยให้นักศึกษาบอกขั้นตอนการทำ และให้นักศึกษาในห้องอีกคนทำของเล่นชิ้นนั้นไปพร้อมกัน เพื่อดูว่าเพื่อนสามารถเข้าใจถึงขั้นตอนการทำ และการประดิษฐ์ที่ไม่ยุ่งยากจนเกินไป
เช่น
วันนี้อาจารย์ได้มีการเรียนชดเชยเนื่องจากหยุดวันอาสาฬหบูชา ให้เพื่อนที่กลับไปแก้ไขงาน ของเล่นที่เด็กสามารถประดิษฐ์เองได้ ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนโดยให้นักศึกษาบอกขั้นตอนการทำ และให้นักศึกษาในห้องอีกคนทำของเล่นชิ้นนั้นไปพร้อมกัน เพื่อดูว่าเพื่อนสามารถเข้าใจถึงขั้นตอนการทำ และการประดิษฐ์ที่ไม่ยุ่งยากจนเกินไป
เช่น
กังหันลม
อาจารย์ได้นำสื่อของเล่นที่รุ่นพี่ประดิษฐ์มาให้นักศึกษาดู เพื่อเป็นไอเดียให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างงานชิ้นต่อๆไป เช่น ตุ๊กตาตีลัง คือ การที่ตุ๊กตาตีลังได้เพราะ แรงโน้มถ่วงที่ถ่วงโดยวัตถุที่หนัก จากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ จึงทำให้ตุ๊กตาตีลังกาได้
กังหันกระดาษ(Turbine paper) เป็นของเล่นพื้นบ้านของไทยที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคม และเสริมสร้างความเข้าใจในหลักกลศาสตร์ ซึ่งมักจะนำมาใช้ในเด็กโต เช่น เด็กประถมศึกษา หรือดดยทั่วไปก็นับจากเด็กอายุประมาณ 2-6 ปี
วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วัน จันทร์ ที่ 22 กรกฎาคม 2556
วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชาจึงไม่มีการเรียนการสอน
ทั้งนี้ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เรียกว่า "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" แปล
ว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม ซึ่งหลังจากปฐมเทศนา
หรือเทศนากัณฑ์แรกที่พระองค์ทรงแสดงจบลง
พระอัญญาโกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม สำเร็จเป็นพระโสดาบัน
จึงขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
พระพุทธเจ้าก็ได้ประทานอุปสมบทให้ด้วยวิธีที่เรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"
พระโกณฑัญญะจึงได้เป็น พระอริยสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ต่อมา พระวัปปะ
พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม
และได้อุปสมบทตามลำดับ
วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชาจึงไม่มีการเรียนการสอน
วันอาสาฬหบูชา
คือวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก
หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5
ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ
ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จน พระอัญญาโกณฑัญญะ
ได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่า
วันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ
พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช 45 ปี
วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 8กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันนี้ได้เรียนเรื่องของ น้ำในร่างกายช่วยปรับสมดุล(อุณหภูมิ)ในร่างกาย มนุษยืจะขาดน้ำได้ไม่เกิน 3 วันแต่ถ้าเป็นสัตว์ เช่น อูฐเป็นสัตว์ที่มีความอดทนสูง สามารถอาศัยอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอาหารหรือน้ำเลยประมาณ10วัน ถึง 2 สัปดาห์ เพราะ อูฐมีไขมันสะสมไว้ในหนอกและร่างกายเก็บรักษาน้ำได้เป็นอย่างดี จึงสามารถอยู่ในที่ทุรกันดารเช่น ทะเลได้เป็นอย่างดี กินอาหารประเภทใบไม้ในทะเลทราย
วันนี้ได้เรียนเรื่องของ น้ำในร่างกายช่วยปรับสมดุล(อุณหภูมิ)ในร่างกาย มนุษยืจะขาดน้ำได้ไม่เกิน 3 วันแต่ถ้าเป็นสัตว์ เช่น อูฐเป็นสัตว์ที่มีความอดทนสูง สามารถอาศัยอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอาหารหรือน้ำเลยประมาณ10วัน ถึง 2 สัปดาห์ เพราะ อูฐมีไขมันสะสมไว้ในหนอกและร่างกายเก็บรักษาน้ำได้เป็นอย่างดี จึงสามารถอยู่ในที่ทุรกันดารเช่น ทะเลได้เป็นอย่างดี กินอาหารประเภทใบไม้ในทะเลทราย
น้ำมีทั้งหมด 3 สถานะ
1. ของแข็ง 2. ของเหลว 3. ก๊าซ
การเกิดฝน
วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556
วันที่ 24 มิถุนายน 2556
อาจารย์จินตนา สุขสำราญ ได้ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มกลุ่มล่ะ 6คน
และอาจารย์ได้ให้นักศึกษาได้ศึกษาใน VCD เรื่อง สนุกกับ อากาศมหัศจรรย์
อากาศสามารถอยู่ได้ทุกที่มีตัวตนแต่มองไม่เห็น ถึงอากาศจะไม่มีรูปร่างแต่ก็มีน้ำหนัก อากาศตะเบาหรือหนักขึ้นอยู่กับว่าเป็นอากาศร้านหรืออากาศเย็น เช่น การทดลองนำลูกโป่งทั้ง 2 ลูกมาแขวนบนเครื่องชั่งทั้งสองด้าน ลองนำเทียนที่จุดไฟมาไว้ใต้ลูกโป่งใบหนึ่ง ปรากฏว่าลุกโป่งที่โดนความร้อนจากเทียนลอยสูงขึ้นกว่าลูกโป่งอีกใบหนึ่ง แสดงว่า อากาศร้อนจะมีน้ำหนักที่เบากว่า และจะลอยสูงกว่าอากาศเย็น ซึ่งหลักการนี้สามารถนำมาใช้ำด้กับการปล่อยบอลลูน และเป็นการปรับสมดุลที่ทำให้เกิดลม
การทดลองแรงดันอากาศ
นำกรดาษมา 2แผ่น กระดาษแผ่นหนึ่งให้ขยำาจนเป็นลูกลมๆ ส่วนอีกแผ่นไม่ต้องขยำ แต่ทั้งสองแผ่นต้องมีขนาดที่เท่ากัน ทิ้งกระดาษทั้ง 2 แผ่น ตกลงสู่พื้น จะพบว่า กระดาษที่มีลักษณะกลมจะตกลงสู่พื้นเร็วกว่ากระดาษที่มีลักษณะแบน เพราะ กระดาษที่มีลักษณะแบนจะมีแรงต้านอากาศมากกว่ากระดาษที่มีลักษณะกลม
อาจารย์จินตนา สุขสำราญ ได้ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มกลุ่มล่ะ 6คน
และอาจารย์ได้ให้นักศึกษาได้ศึกษาใน VCD เรื่อง สนุกกับ อากาศมหัศจรรย์
อากาศสามารถอยู่ได้ทุกที่มีตัวตนแต่มองไม่เห็น ถึงอากาศจะไม่มีรูปร่างแต่ก็มีน้ำหนัก อากาศตะเบาหรือหนักขึ้นอยู่กับว่าเป็นอากาศร้านหรืออากาศเย็น เช่น การทดลองนำลูกโป่งทั้ง 2 ลูกมาแขวนบนเครื่องชั่งทั้งสองด้าน ลองนำเทียนที่จุดไฟมาไว้ใต้ลูกโป่งใบหนึ่ง ปรากฏว่าลุกโป่งที่โดนความร้อนจากเทียนลอยสูงขึ้นกว่าลูกโป่งอีกใบหนึ่ง แสดงว่า อากาศร้อนจะมีน้ำหนักที่เบากว่า และจะลอยสูงกว่าอากาศเย็น ซึ่งหลักการนี้สามารถนำมาใช้ำด้กับการปล่อยบอลลูน และเป็นการปรับสมดุลที่ทำให้เกิดลม
การเกิดลม
แรงดันอากาศ
แรงดันอากาศ หมายถึง แรงที่อากาศลอยไปกระทบโดนวัตุอีกวัตถุหนึ่ง จนทำให้เกิดแรงดันของอากาศดันวัตถุทึี่มีน้ำหนักไม่มากนักสามารถลอยขึ้นได้การทดลองแรงดันอากาศ
นำกรดาษมา 2แผ่น กระดาษแผ่นหนึ่งให้ขยำาจนเป็นลูกลมๆ ส่วนอีกแผ่นไม่ต้องขยำ แต่ทั้งสองแผ่นต้องมีขนาดที่เท่ากัน ทิ้งกระดาษทั้ง 2 แผ่น ตกลงสู่พื้น จะพบว่า กระดาษที่มีลักษณะกลมจะตกลงสู่พื้นเร็วกว่ากระดาษที่มีลักษณะแบน เพราะ กระดาษที่มีลักษณะแบนจะมีแรงต้านอากาศมากกว่ากระดาษที่มีลักษณะกลม
วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556
วันนี้มีการเรียนการสอน และ อาจารย์ได้สั่งงานให้นักศึกษาทำบล็อกวิชา การจัดประสบการณ์ทาง
วิทยาศตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
ความรู้เพิ่มเติม
ข้าพเจ้าจึงไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ (Science) มาจากภาษาลาตินว่า “Scientia” แปลว่า “ความรู้ทั่วไป” ซึ่งเป็นความหมายที่กว้างมากที่ใช้ในอดีต (สุนันท์ บุราณรมย์ และคณะ, 2542 : 2-3) เนื่องจากในอดีตยังไม่มีการค้นพบความรู้มากมายเหมือนในปัจจุบัน ดังนั้น วิทยาศาสตร์จึงมีความหมายในลักษณะที่ครอบคลุมความรู้ทั้งหมดของมนุษย์ ต่อมาเมื่อมนุษย์มีการค้นพบความรู้มากขึ้นและได้พิสูจน์ความรู้ต่างๆ สิ่งใดเป็นจริงจะได้รับการยอมรับ ส่วนสิ่งใดไม่จริงก็จะถูกปฏิเสธ ทำให้ความหมายของคำว่าวิทยาศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งความหมายของคำว่า วิทยาศาสตร์ ในปัจจุบันมีผู้ให้ความหมายไว้หลายท่าน เช่น ภพ เลาหไพบูลย์ (2540: 2) ได้สรุปความหมายของวิทยาศาสตร์ว่า “วิทยาศาสตร์เป็นวิชาที่สืบค้นหาความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติ โดยใช้กระบวนการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิธีการทางวิทยาศาสตร์และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
สุนันท์ บุราณรมย์ และคณะ (2542
: 2-3) ได้ให้ความหมายไว้ว่า
วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้ที่แสดงหรือพิสูจน์ได้ว่าถูกต้อง เป็นความจริง
ซึ่งความรู้ดังกล่าวได้มาจากการศึกษาปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือจากการทดลอง
โดยเริ่มต้นจากการสังเกต การตั้งสมมติฐาน การทดลองอย่างมีแบบแผน
แล้วจึงสรุปเป็นทฤษฏีหรือกฎขึ้น
แล้วนำแล้วนำทฤษฏีหรือกฎที่ได้ไปใช้ศึกษาหาความรู้ต่อไปเรื่อยๆ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (2542 : 1075) ได้ให้ความหมายว่า“วิทยาศาสตร์ คือ ความรู้ที่ได้โดยการสังเกต และค้นคว้าจากปรากฏการณ์ธรรมชาติแล้วจัดเข้าเป็นระเบียบ, วิชาที่ค้นคว้าได้หลักฐานและเหตุผลแล้วจัดเข้าเป็นระเบียบ”
โดยสรุป วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้ที่ได้มาจากการศึกษาปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งสามารถแสดงหรือพิสูจน์ได้ว่าถูกต้อง และเป็นความจริง โดยใช้กระบวนการแสวงหาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ แล้วจัดความรู้นั้นเข้าเป็นระเบียบ เป็นหมวดหมู่
วิทยาศตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
ความรู้เพิ่มเติม
ข้าพเจ้าจึงไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ (Science) มาจากภาษาลาตินว่า “Scientia” แปลว่า “ความรู้ทั่วไป” ซึ่งเป็นความหมายที่กว้างมากที่ใช้ในอดีต (สุนันท์ บุราณรมย์ และคณะ, 2542 : 2-3) เนื่องจากในอดีตยังไม่มีการค้นพบความรู้มากมายเหมือนในปัจจุบัน ดังนั้น วิทยาศาสตร์จึงมีความหมายในลักษณะที่ครอบคลุมความรู้ทั้งหมดของมนุษย์ ต่อมาเมื่อมนุษย์มีการค้นพบความรู้มากขึ้นและได้พิสูจน์ความรู้ต่างๆ สิ่งใดเป็นจริงจะได้รับการยอมรับ ส่วนสิ่งใดไม่จริงก็จะถูกปฏิเสธ ทำให้ความหมายของคำว่าวิทยาศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งความหมายของคำว่า วิทยาศาสตร์ ในปัจจุบันมีผู้ให้ความหมายไว้หลายท่าน เช่น ภพ เลาหไพบูลย์ (2540: 2) ได้สรุปความหมายของวิทยาศาสตร์ว่า “วิทยาศาสตร์เป็นวิชาที่สืบค้นหาความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติ โดยใช้กระบวนการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิธีการทางวิทยาศาสตร์และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (2542 : 1075) ได้ให้ความหมายว่า“วิทยาศาสตร์ คือ ความรู้ที่ได้โดยการสังเกต และค้นคว้าจากปรากฏการณ์ธรรมชาติแล้วจัดเข้าเป็นระเบียบ, วิชาที่ค้นคว้าได้หลักฐานและเหตุผลแล้วจัดเข้าเป็นระเบียบ”
โดยสรุป วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้ที่ได้มาจากการศึกษาปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งสามารถแสดงหรือพิสูจน์ได้ว่าถูกต้อง และเป็นความจริง โดยใช้กระบวนการแสวงหาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ แล้วจัดความรู้นั้นเข้าเป็นระเบียบ เป็นหมวดหมู่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)